วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นางสาวณัฏฐ์วรินท์          นามสกุล  แป้นอ้อย
ชื่อเล่น  แอน                          ห้อง BC2
วัน/เดือน/ปีเกิด     21 กรกฎาคม 2528    อายุ  25 ปี
ที่อยู่  หมู่บ้านสำเร็จวิลล์ 6 ซอยวัดศรีประวัติ   ถนน กาญจนาภิเษก  ตำบล ปลายบาง
อำเภอ บางกรวย  จังหวัด นนทบุรี   รหัสไปรษณีย์ 10300
กำลังศึกษาอยู่  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต   คณะ  วิทยาการจัดการ
หลักสูตร การบริหารธุรกิจ(คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)    ชั้นปีที่ 4
E-mail : the-eart@hotmail.com
งานอดิเรก   เล่นอินเทอร์เน็ต

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บุคลิกสไตล์ BIZCOM

7 ปัจจัยที่ช่วยให้บุคลิกภาพดี
บุคลิกภาพเป็นเรื่องของภาพรวมที่ตัวเราแสดงออกไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยมีคนอื่นมองอยู่หรือรู้สึกกับสิ่งที่เราแสดงออก ดังนั้น จึงต้องมีการระมัดระวังและตกแต่งเสริมเติมให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ามอง และเป็นที่ประทับใจของคนรอบตัว
         มี 7 ข้อที่ดิฉันอยากเตือนให้ดูแล ใส่ใจ และนำไปเป็นองค์ประกอบของการสร้างสรรค์หรือตกแต่งบุคลิกภาพให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิม คือ
1. การมอง         
 ทราบไหมคะว่า สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลนได้ ฉะนั้น เมื่อเราจะมองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดหรือรู้สึกติดลบได้
2. การแต่งกาย         
 การแต่งกายบ่งบอกความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ช่วยทำให้คนคนหนึ่งดูดีหรือดูแย่ได้ ทุกครั้งที่เลือกเครื่องแต่งกายหรือกำลังจะแต่งกาย ให้ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด
3. การพูด         
ต้องมีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ มีน้ำเสียงชวนฟัง เสียงดังฟังชัด ฉะฉาน และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง  ทั้งยังต้องคำนึงถึงสถานที่ เวลา และโอกาสด้วย
4. การเดิน         
ให้เดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งเพื่อให้ดูสง่า แต่ไม่ต้องถึงกับหลังตรงตัวแข็งเหมือนนักเรียนนายร้อย เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย เวลาเดินให้ก้าวเท้ายาวพอประมาณ และสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ ว่าเก้าแค่ไหนจึงดูคล่องแคล่วและปลอดภัย ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เพราะเสียงฝีเท้าจะไปรบกวนผู้อื่น ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่
5. การแสดงท่าทาง         

ต้องระวังท่าทางที่ไม่สวยงาม เวลาพูดหรือทำอะไรก็ตาม อย่ามีการแสดงท่าประกอบมากเกินไปจนน่าเกลียด หรือแสดงท่าที่ไม่สุภาพ ท่าทางที่ดีจะต้องมาจากพื้นฐานของความสงบ สำรวม ให้เกียรติทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ควรมีท่าทางประกอบเพื่อให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ สง่า และเสริมในสิ่งที่พูเล่า นอกเหนือจากนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีท่าทางประกอบแต่อย่างใด
6. ทักษะในการทำงาน
           ในการทำงานใดๆ ก็ตามจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ต้องทำด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ด้วยความชำนาญ และให้ได้ผลงานดีเด่น ทำด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่าให้น้อยไปกว่าความสามารถที่เรามีหรือทำได้ ความน่าชื่นใจของผู้ร่วมงานหรือหัวหน้างานทุกคนก็คือ การมีเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ทำงาน "เต็มความสามารถ" อยู่ตลอดเวลา นั่นคือบุคลิกแห่งความสำเร็จด้วยค่ะ
7. สุขภาพ
           ต้องระวังสุขภาพให้ดี อย่าให้มีโรค ระวังรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ที่ป่วยออดๆ แอดๆ จะดูเป็นคนขี้โรค ซึ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าน่าชื่นชม ดูอ่อนแอ ไม่คล่องแคล่ว โรคบางรคส่งผลถึงความซีดเซียว ห่อเหี่ยว หม่นหมอง จึงขาดสง่าราศี การดูแลสุขภาพให้ดีคือต้นทุนของการพัฒนาบุคลิกภาพที่สำคัญที่สุด
         สุขภาพนั้น ยังหมายรวมถึงรูปร่างและทรวดทรงด้วย อยากแต่งกายได้สวย หล่อ มีสง่า สะดุดตา ก็ต้องมีรูปร่างที่ดีเป็นพื้นฐานอยู่ก่อน เสื้อผ้าที่มีรสนิยม เข้ากับสีผิว กาลเทศะ และฐานภาพของผู้สวมใส่ จะยิ่งขับเน้นให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นบุคลิกภาพที่ดีสร้างเสริมกันได้ค่ะ ไม่มีใครดูดีมาแต่อ้อนแต่ออก มาพัฒนากันทีละเล็กทีละน้อยในภายหลังทั้งนั้น แต่ต้องทำอย่างเป็นธรรมชาติ นั่นแหละค่ะ คือความดูดีที่แท้จริง

ลูกแรดพร้อมล่าเหยื่อ

1. การบรรยายประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต
วันที่ 23 มิถุนายน 2553 ผู้บรรยาย อ.สาระ  มีกิจผล
ได้ทราบความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต  ว่ามีความเป็นมาอย่างไรมีความสำคัญอย่างไร  ทราบถึงสถานที่ๆสำคัญภายในตัวมหาวิทยาลัย มีเรื่องเล่ามานานขนาดไหน ก่อตั้งมาเมื่อไหร่และมีอายุมากน้อยเท่าไรได้ความสนุกสนานจากผู้บรรยายความรู้อีกมากมายด้วย 
2.การพัฒนาบุคลิกภาพและธนาคารความดี
วันที่ 14 กรกฎาคม  2553 ผู้บรรยาย ผศ.โรจนา  สุขพันธ์
               เป็นการตรวจสอบตนเองว่ามีบุคลิกที่พร้อมจะออกไปทำงานหรือเจอกับคนมากหน้าหลายตา พัฒนาตนเองให้ดูดีในสายตาคนอื่นได้ มีความดีความพร้อมต่อการทำงานมากแค่ไหนนิสัยตนเองต่อสังคมส่วนรวมเป็นเช่นไร สามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดีเท่าไหร                           
3.การบริหารการเงินส่วนบุคคล
วันที่ 28 กรกฎาคม 2553 ผู้บรรยาย คุณ กษม  ภูติจินดานันท์
                 เป็นการฝึกตัวเองให้รู้จักการใช้เงินให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและใช้เงินอย่างคุ้มค่ามากที่สุด  รู้จักกาบเก็บออมเพื่อนำมาใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือนำเงินที่ออมนั้นมาลงทุนเมื่อเราเดือดร้อนด้านการเงินได้
4.ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
วันที่ 25 สิงหาคม 2553 ผู้บรรยาย อ.ปรีชา  ร่วงลือ
                  สอนให้เรารู้ถึงความสำคัญของภาษาบ้านเกิดของเราเองว่ามีความสำคัญอย่างไรและเมื่อนำไปใช้ในการทำงานหรือใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน  เมื่อสื่อสารกับคนในสังคมให้เกิดประโยชน์สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทยควรอนุรักษ์ไว้เพื่อสอนให้ลูกหลานของเราใช้อย่างถูกต้อง
5.จรรยาบรรวิชาชีพกับธรรมะ
วันที่ 1 กันยายน  2553 ผู้บรรยาย หลวงปู่พุทธะอิสระ และคุณมนัส  ตั้งสุข
                    เป็นการแนะนำการใช้ธรรมะกับการประกอบอาชีพว่าเราควรทำอย่างไร มีความคิดที่ดีในการทำงานมีหลุกการที่ยึดมั่นต่อการทำงาน และมีความซื่อสัตย์ในการทำงานต่อเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน  และตั้งใจทำงานเมื่อได้รับมอบหมาย 
                            
จากการเรียนในรายวิชาการเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 3 ทำให้ดิฉันได้รับความรู้ในด้านต่างๆ ที่ทำให้พร้อมที่จะออกไปฝึกประสบการณ์การทำงานนอกรั้วมหาวิทยาลัยได้รับการอบรมอย่างดีจากอาจารย์และวิทยากรที่มีความรู้เฉพาะด้านได้แก่
1. เรื่องการมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงานและการปฏิบัติตนทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น
2. ฝึกให้มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและมีความซื่อสัตย์สุจริต
3. เรียนรู้เรื่องการเงิน การออม การบริหารเงินของตนเองในแต่ละเดือน
4. ได้ทบทวนความรู้ภาษาอังกฤษและมีการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษซึ่งทำให้เราสามารถทราบได้ว่าความรู้ในด้านภาษาอังกฤษของเรามีมากน้อยเพียงใด
5. กิจกรรมการคัดไทยทำให้เราฝึกในเรื่องการเขียน ซึ่งการเขียนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งในการทำงานและได้ทบทวนความรู้วิชาภาษาไทยที่จำเป็นในการประกอบอาชีพด้วย
6. มีการอบรมเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพ เช่น การแต่งกายการแต่งหน้า ทำผม การปฏิบัติตนในที่สังคมต่าง ๆ มารยาทบนโต๊ะอาหารเป็นต้น
7. ได้แนวคิดจากวิทยากรในเรื่องของการวางแผนการทำงานในชีวิตการสร้างกำลังใจให้กับตนเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน
8. ได้รับประสบการณ์จากการคุมสอบ IT สามารถนำไปใช้ในอนาคตได้เนื่องจากในการคุมสอบครั้งนี้ทำให้เราทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดจนวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ
9. ได้รับความรู้ในเรื่องของวัฒนธรรมของต่างชาติการติดต่อธุรกิจกับนักธุรกิจประเทศต่าง ๆ และได้ทราบถึงลักษณะนิสัยของคนในหลาย ๆประเทศด้วย ซึ่งความรู้ในส่วนนี้เราสามารถนำไปปรับใช้ได้เมื่อเรามีโอกาสได้ติดต่อธุรกิจกับชาวต่างชาติ
10. มีความรู้ในเรื่องของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มากขึ้นทราบถึงช่องทางที่เราจะนำไปพัฒนาความรู้ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น
11. ได้รับทั้งความรักและความปรารถนาดีจากอาจารย์ทุก ๆท่านที่ควบคุมในรายวิชานี้ เพราะท่านคอยให้คำปรึกษา ตักเตือนและแนะนำศิษย์ทุกคนให้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกที่ควร
12. ได้รับข้อคิดดี ๆและความสนุกสนานจากพระอาจารย์ที่ได้เทศนาให้พวกเราฟังในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียน